แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

1. พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด กี่วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

• 90 วัน                                                                           ค. 120  วัน
• 100 วัน                                                                         ง.  145  วัน

ตอบ  ค. 120  วัน

2. พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มีกี่หมวด กี่มาตรา

• 7 หมวด  65  มาตรา                                                  ค. 6  หมวด  65  มาตรา
• 7 หมวด  66 มาตรา                                                   ง. 6  หมวด  66  มาตรา

ตอบ   ข.  7  หมวด  66 มาตรา         

3. “ความผิดมูลฐาน” หมายความว่า

• ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
• ความผิดเกี่ยวกับเพศตามประมวลกฎหมายอาญา
• ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา
• ถูกทุกข้อ

ตอบ   ง. ถูกทุกข้อ

4. ข้อใด ไม่ใช่ ความหมาย “ธุรกรรม”

• กิจกรรมที่เกี่ยวกับการทำ นิติกรรม สัญญา หรือการดำ เนินการใด ๆ กับผู้อื่นทางการเงิน
• กิจกรรมที่เกี่ยวกับการทำ นิติกรรม สัญญา หรือการดำ เนินการใด ๆ กับผู้อื่นทางธุรกิจ
• กิจกรรมที่เกี่ยวกับการทำ นิติกรรม สัญญา หรือการดำ เนินการใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สิน
• ไม่มีข้อใดผิด

ตอบ  ง. ไม่มีข้อใดผิด

5. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ “ธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย”

• ธุรกรรมที่มีความซับซ้อนผิด
• ธุรกรรมที่ขาดความเป็นไปได้ในเชิงเศรษฐกิจ
• ธุรกรรมอาจเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐาน
• ถูกทุกข้อ

ตอบ  ง. ถูกทุกข้อ

6. ข้อใด ไม่ใช่ “ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำ ความผิด”

• เงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐาน
• เงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการจำหน่าย จ่าย โอนด้วยประการใด ๆ
• ดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐาน
• เงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการทำธุรกิจ

ตอบ  ง. เงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการทำธุรกิจ

7. ผู้ใดกระทำ ด้วยประการใด ๆ เพื่อปกปิดหรืออำ พรางลักษณะที่แท้จริง การได้มา แหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใด ๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำ ความผิด ผู้นั้นกระทำ ความผิดฐานฟอก

เงิน อยู่ในมาตราใด

• มาตรา 5                                                                                      ค. มาตรา  7
• มาตรา 6                                                                                       ง. มาตรา  8

ตอบ   ก. มาตรา  5 

8. ผู้ใดสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำ ความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น อยู่ในมาตราใด

• มาตรา 8                                                                                      ค. มาตรา  7
• มาตรา 9                                                                                      ง. มาตรา   6

ตอบ  ข. มาตรา   9              

9. ผู้ใดกระทำความผิดตามหมวดนี้ต้องระวางโทษเป็น  2  เท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น

• สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ค.  ผู้บริหารท้องถิ่น
• กรรมการธุรกรรม ง. ถูกทั้ง  ก  และ  ค

ตอบ   ง. ถูกทั้ง  ก  และ  ค

10. ผู้ใดที่กระทำความผิดต้องระวางโทษเป็น 3  เท่า ของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น

• พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ค.  สมาชิกวุฒิสภา
• เลขาธิการ ง. พนักงานรัฐวิสาหกิจ

ตอบ    ข. เลขาธิการ    (กรรมการ อนุกรรมการ กรรมการธุรกรรม เลขาธิการ รองเลขาธิการ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้ใดกระทำ ความผิดตามหมวดนี้ ต้องระวางโทษเป็นสามเท่าของโทษที่             กำหนดไว้สำหรับความ)

11. สถาบันการเงินมีหน้าที่ต้องรายงานการทำธุรกรรมนั้นต่อสำนักงานเมื่อปรากฏว่าธุรกรรมดังกล่าวเป็นอย่างไร

• ธุรกรรมที่ใช้เงินสดมีจำนวนเกินกว่าที่กำหนดในกฎกระทรวง
• ธุรกรรมที่เกี่ยวกับทรัพย์สินที่มีมูลค่าเกินกว่าที่กำหนดในกฎกระทรวง
• ธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย
• ถูกทุกข้อ

ตอบ  ง.  ถูกทุกข้อ

12. หน่วยงานใดมีหน้าที่ต้องรายงานต่อสำนักงานเมื่อปรากฏว่ามีการขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม

เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่สถาบันการเงินมิได้เป็นคู่กรณี

• สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร ค. สำนักงานที่ดินสาขา
• สำนักงานที่ดินจังหวัด ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ   ง. ถูกทุกข้อ

13. สถาบันการเงินต้องเก็บรักษารายละเอียดเกี่ยวกับการแสดงตนและบันทึกข้อเท็จจริงเป็นเวลากี่ปีนับแต่วันที่มีการปิดบัญชีหรือยุติความสัมพันธ์กับลูกค้า

• 3  ปี                                                                                               ค.  5  ปี
• 4  ปี                                                                                               ง.  6  ปี

ตอบ   ง.  6  ปี

14. ใครเป็นประธานในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

• รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ค. ปลัดกระทรวงยุติธรรม
• นายกรัฐมนตรี ง. ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

ตอบ  ข.  นายกรัฐมนตรี

15. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนกี่คน

• 5 คน                                                                                             ค.  9  คน
• 7 คน                                                                                             ง.  10  คน

ตอบ   ค.  9  คน

16. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งมีวาระการดำ รงตำกี่ปี

• 1 ปี ค. 2  ปี
• 3 ปี                                                                                                ง.  4  ปี

ตอบ  ง.  4  ปี

17. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งพ้นจากตำแหน่งเมื่อใด

• ตาย ค. เป็นบุคลล้มละลาย
• ลาออก ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ   ง. ถูกทุกข้อ

18. ผู้ช่วยเลขานุการในคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมีจำนวนกี่คน

• 2 คน                                                                             ค. 3  คน
• ไม่เกิน 2  คน                                                              ง. 1  คน

ตอบ   ข. ไม่เกิน  2  คน

19. ข้อใดคือหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

• เสนอมาตรการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินต่อคณะรัฐมนตรี
• วางระเบียบเกี่ยวกับการเก็บรักษา การนำ ทรัพย์สินออกขายทอดตลาด
• ส่งเสริมความร่วมมือของประชาชน เกี่ยวกับการให้ข้อมูลข่าวสารเพื่อป้องกันและปราบปรามการ

ฟอกเงิน

• ถูกทุกข้อ

ตอบ  ง. ถูกทุกข้อ

20. การประชุมของคณะกรรมการต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าเท่าใดของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่

• 1 ใน  3                                                                         ค. 1  ใน  4
• 2 ใน  3                                                                        ง.  2  ใน  4

ตอบ   ข.   2  ใน  3